temi Blog
temi Blogs

temi, The Service Robot

Published date:

Smart Hospital โรงพยาบาลอัจฉริยะแห่งอนาคต

temi Blog1 views
Smart Hospital โรงพยาบาลอัจฉริยะแห่งอนาคต - Salvator

 

Smart Hospital คืออะไร?

Smart Hospital คือโรงพยาบาลที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานในทุกด้าน ตั้งแต่การนัดหมาย การลงทะเบียน การตรวจวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการติดตามผลการรักษา โดยมีเป้าหมายหลักคือ

เพิ่มประสิทธิภาพ: ลดความซ้ำซ้อน ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น และเพิ่มความแม่นยำในการทำงาน

ลดต้นทุน: ลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่

ยกระดับประสบการณ์ของผู้ป่วย: ทำให้การเข้ารับบริการสะดวก รวดเร็ว และเป็นส่วนตัวมากขึ้น

เพิ่มคุณภาพการรักษา: เข้าถึงข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัย ช่วยให้แพทย์ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา: นำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์

 

เทคโนโลยีหลักที่ใช้ใน Smart Hospital

 

Internet of Things (IoT): 

อุปกรณ์ IoT เช่น เซ็นเซอร์ อุปกรณ์สวมใส่ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ จะถูกนำมาเชื่อมต่อกันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถเก็บข้อมูลและส่งข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้แพทย์สามารถติดตามอาการของผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถแจ้งเตือนได้ทันทีหากมีเหตุการณ์ผิดปกติ

 

Artificial Intelligence (AI): 

AI ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล เช่น ข้อมูลทางการแพทย์ ประวัติการรักษา และผลการตรวจต่างๆ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค การวางแผนการรักษา และการทำนายผลลัพธ์ของการรักษา นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยในการตรวจจับความผิดปกติในภาพทางการแพทย์ เช่น X-ray และ MRI ได้อย่างแม่นยำ

 

Big Data: 

ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่เก็บรวบรวมจากอุปกรณ์ IoT และระบบต่างๆ ในโรงพยาบาล จะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวโน้มและรูปแบบต่างๆ ช่วยในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ การจัดการทรัพยากร และการพัฒนานโยบาย

 

Cloud Computing: 

ระบบคลาวด์ช่วยให้สามารถจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ทุกเวลา

 

Robotics: 

หุ่นยนต์ถูกนำมาใช้ในหลากหลายด้าน เช่น การผ่าตัด การทำกายภาพบำบัด การขนส่งยาและเวชภัณฑ์ และการทำความสะอาด ช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ และเพิ่มความแม่นยำในการทำงาน

 

Telemedicine: 

ระบบ Telemedicine ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถปรึกษาแพทย์ได้จากระยะไกลผ่านวิดีโอคอล ช่วยลดความจำเป็นในการเดินทางไปโรงพยาบาล และเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์

 

Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR): 

AR และ VR ถูกนำมาใช้ในการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ การวางแผนการผ่าตัด และการทำกายภาพบำบัด

 

Blockchain: 

เทคโนโลยี Blockchain ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการจัดเก็บและแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการแพทย์

 

ตัวอย่างการนำ Smart Hospital ไปใช้จริง

Mount Sinai Hospital (New York, USA): ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยเพื่อทำนายความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด

Cleveland Clinic (Ohio, USA): ใช้ Big Data ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานและลดต้นทุน

Changi General Hospital (Singapore): ใช้ IoT ในการติดตามอาการของผู้ป่วย และใช้ระบบนำทางอัจฉริยะเพื่อช่วยผู้ป่วยและญาติในการเดินทางภายในโรงพยาบาล

 

การปรับปรุงสถานที่เพื่อรองรับเทคโนโลยี: ก้าวสำคัญสู่ Smart Hospital

การปรับปรุงสถานที่ให้เหมาะสมเป็นรากฐานที่สำคัญของ Smart Hospital โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ซึ่งรวมถึง:

1. โครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่าย: 

การติดตั้งระบบเครือข่ายที่มีความเร็วสูงและครอบคลุมทั่วทั้งโรงพยาบาล เพื่อรองรับการรับส่งข้อมูลจำนวนมากจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ IoT (Internet of Things) และระบบต่างๆ ที่เชื่อมต่อกัน
 

2. ระบบจัดเก็บข้อมูล: 

การสร้างระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงและสามารถรองรับข้อมูลจำนวนมหาศาลจากแหล่งต่างๆ เช่น ระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Health Records: EHR) ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และภาพทางการแพทย์
 

3. ระบบรักษาความปลอดภัย: 

การติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยทางกายภาพและทางไซเบอร์ เพื่อปกป้องข้อมูลผู้ป่วยและระบบต่างๆ จากการถูกโจมตีหรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
 

4. การออกแบบพื้นที่ให้เหมาะกับหุ่นยนต์ 

ขนาดของทางเดิน

การปรับปรุงทางเดินให้เหมาะสมกับการเดินของหุ่นยนต์นำทางและหุ่นยนต์ส่งของ โดยควรเผื่อทางเดินสำหรับหุ่นยนต์โดยเฉพาะ ไม่น้อยกว่า 120 ซม. 

เช่น หากทางเดินภายในโรงพยาบาล ถูกใช้ในการเคลื่อนย้ายเครื่องมือแพทย์ เป็นทางเดินที่ใช่ร่วมกันกับหุ่นยนต์ ควรเผื่อความกว้างสำหรับหุ่นยนต์ 120 ซม. ในการเดินสวนทางกัน


ลักษณะพื้นทางเดิน

พื้น: ควรเป็นพื้นที่ที่ไม่มีฝุ่นหนา สะอาด ไม่ลื่น

ทางลาดเอียง: ทางเดินของหุ่นยนต์ ไม่ควรชันเกิน 5 องศา

ทางต่างระดับ: ความต่างระดับของพื้นไม่ควรสูง 0.8 cm

ช่องว่าง (GAP): ช่องว่างระหว่างทางเดิน ไม่ควรห่างเกิน 3.5 cm.  

 

ระบบลิฟต์ของอาคาร

ต้องใช้ลิฟต์ที่รองรับการเชื่อมต่อกับโมดูลสื่อสาร ระหว่างลิฟต์กับหุ่นยนต์ได้ เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถขึ้น-ลง ลิฟต์ได้ด้วยตัวเอง โดยไร้การควบคุมของมนุษย์

- ตัวอย่างเช่น ลิฟต์ของ KONE หรือ Mitsubishi

ช่องว่างระหว่างพื้นกับลิฟต์: ควรมีช่องว่าง ไม่ควรห่างเกิน 3.5 cm.  

 

ประตูอัตโนมัติ

เช่นเดียวกับลิฟต์ ที่ประตูอัตโนมัติต้องติดตั้งโมดูลสื่อสาร ระหว่างประตูกับหุ่นยนต์ได้ เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถขึ้น-ลง ลิฟต์ได้ด้วยตัวเอง โดยไร้การควบคุมของมนุษย์
 

 

5. การจัดการพลังงาน: 

การนำระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดค่าใช้จ่าย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

 

หุ่นยนต์ทางการแพทย์: พลังขับเคลื่อนแห่งอนาคต

หุ่นยนต์ทางการแพทย์เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนโฉม Smart Hospital โดยมีบทบาทที่หลากหลายและสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของการดูแลสุขภาพได้อย่างมาก

หุ่นยนต์ส่งยาและเวชภัณฑ์: หุ่นยนต์ส่งยาและเวชภัณฑ์สามารถช่วยลดความผิดพลาดในการส่งยาและเวชภัณฑ์ และเพิ่มความรวดเร็วในการส่งมอบให้กับผู้ป่วย  | ตัวอย่างหุ่นยนต์: temiGo
หุ่นยนต์ทำความสะอาด: หุ่นยนต์ทำความสะอาดช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในโรงพยาบาล โดยสามารถทำความสะอาดพื้นผิวและอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
หุ่นยนต์ต้อนรับและให้ข้อมูล: หุ่นยนต์ต้อนรับและให้ข้อมูลสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยและญาติ เช่น ตารางนัดหมาย ข้อมูลการรักษา และเส้นทางในโรงพยาบาล ซึ่งช่วยลดความเครียดและเพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วย | ตัวอย่างหุ่นยนต์: temiV3

 

ประโยชน์ของ Smart Hospital

Smart Hospital นั้นมีประโยชน์มากทั้งต่อผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ และระบบสาธารณสุขโดยรวม ดังนี้:

สำหรับผู้ป่วย: Smart Hospital ช่วยเพิ่มคุณภาพการรักษาพยาบาล ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ เพิ่มความสะดวกสบาย และเพิ่มความพึงพอใจในการรับบริการ
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์: Smart Hospital ช่วยลดภาระงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความผิดพลาด และเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
สำหรับระบบสาธารณสุข: Smart Hospital ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพสำหรับประชาชน

 

อนาคตของ Smart Hospital

Smart Hospital เป็นอนาคตของการดูแลสุขภาพที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบคลาวด์ และ 5G เราจะได้เห็นการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ใน Smart Hospital เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพการดูแลสุขภาพให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

Smart Hospital ไม่ใช่เพียงแค่แนวคิด แต่เป็นความจริงที่กำลังเกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน การลงทุนใน Smart Hospital เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของการดูแลสุขภาพ ที่จะช่วยให้เราสามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ และสร้างระบบสาธารณสุขที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

Smart Hospital เป็นอนาคตของการดูแลสุขภาพที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบคลาวด์ และ 5G เราจะได้เห็นการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ใน Smart Hospital เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพการดูแลสุขภาพให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ติดต่อหาเราได้ที่ Salvator Tech

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

หรือ แอดไลน์เพื่อแชทกับเจ้าหน้าที่

Salvator line

@salvatortech

ดูบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ